ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเป็นใจ ต้องไปเที่ยวแล้ว จังหวัดใกล้ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบ กาญจนบุรี คือคำตอบสุดท้าย ขับรถไม่ไกลจากกรุงเทพ 2 ชั่วโมงก็มาถึงกาญจนบุรี มีที่เที่ยวหลากหลาย ทั้ง น้ำตก เมืองเก่า แม่น้ำ รางรถไฟ และอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งอากาศร้อนๆ ต้องมาล่องแพฟินสุดๆ ร้อนนี้ไปเที่ยวกาญจนบุรี 10 จุดเช็คอิน เที่ยวกาญจนบุรี คลายร้อนได้ เหล่านักเที่ยวอย่างเราพลาดไม่ได้แม้แต่ที่เดียว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว คือ สะพานสายประวัติศาสตร์ แลนด์มาร์คของจังหวัดกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวกาญจนบุรีต้องห้ามพลาด เพราะถ้าไม่มีรูปบนรางรถไฟสะพานแห่งนี้ถือว่ายังมาไม่ถึงกาญจนบุรี ในทุกปีช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม มีการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การสร้างรถไฟสายมรณะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
ทางรถไฟสายมรณะ
ทางรถไฟสายมรณะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เช่นกัน สร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเส้นทางรถไฟที่ใช้แรงงานเชลยและกรรมกรชาวเอเซีย จนได้รับการขนานนามว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ” เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากการสร้างเส้นทางนี้จำนวนมาก นักท่องเที่ยวหลายคนให้ความสนใจรถไฟสายนี้มาก โดยเฉพาะช่วงโค้งมรณะ เป็นการโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อยยาว ประมาณ 400 เมตร ถ่ายรูปได้สวยและวิวงามมาก กลายเป็นสถานที่เที่ยวมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์ หรือ ต้นก้ามปู มีอายุมากกว่า 100 ปี ด้วยขนาดใหญ่ถึง 10 คนโอบ และกิ่งก้านที่แผ่กว้างไปทั่วทั้งสวน จึงทำให้จำเป็นต้องมีการทำสะพานไม้ล้อมรอบต้นไม้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินไปเหยียบรากต้นไม้หรือขูดโชคตามความเชื่อ ซึ่งนอกจากจะสามารถแวะมานั่งเล่น พักผ่อน และชมทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงามได้แล้ว ยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิต ถ่ายออกมาก็สวยสุดๆ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวต้องไปเช็คอิน
สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์
สะพานมอญ อยู่ในอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวถึง 850 เมตร สร้างขึ้นโดยดำริของหลวงพ่ออุตตมะ เพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยง และมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กัน โดยข้ามแม่น้ำซองกาเลียเชื่อมการสัญจรมอญ - สังขละบุรีให้ถึงกัน นอกจากนี้ สะพานมอญ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ และแสงยามเช้าที่สวยงาม พร้อมสัมผัสวิถีชาวบ้านกลางสายหมอก
วัดใต้น้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการาม (เก่า)
วัดใต้น้ำ ชื่อเดิมคือ วัดวังก์วิเวการาม สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านชาวกะเหรี่ยง และชาวมอญ ร่วมกันสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2496 ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว อันซีนไทยแลนด์ เพราะมีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน (ประมาณเดือนมีนาคม - เมษายน ) น้ำหลังเขื่อนจะลดระดับลงจนสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ถ้ามาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาว (ประมาณเดือนตุลาคม - มกราคม ) จะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล ไม่สามารถเห็นอะไรได้เลย
เจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี
เจดีย์จำลองตามแบบเจดีย์พุทธคยาที่อินเดีย ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ อำเภอสังขละบุรี ตัวเจดีย์มีความสวยงดงาม ส่องแสงทองเด่นอร่ามทั่วทุกสารทิศ ด้านหน้าเจดีย์มีสิงห์แบบมอญ 2 ตัว ยืนเฝ้าบันไดทางขึ้นทอดยาว พาขึ้นสู่ตัวเจดีย์ทรงเหลี่ยมฐานจัตุรัส บนยอดเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เพื่อให้ได้สักการะบูชากัน ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการประกอบพิธีต่างๆ ในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลอีกด้วย
เมืองมัลลิกา จำลองยุคสมัยรัชกาลที่ 5
เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เมืองโบราณจำลองแห่งแรกที่นำวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวสยาม บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงยุคสมัยรัชกาลที่ 5 มาจำลองบรรยากาศให้ชม ขนาดพื้นที่ 60 ไร่ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศสามารถเช่าชุดไทย เดินทั่วเมืองและถ่ายรูปเหมือนย้อนยุคไปสมัยโบราณได้ มีค่าเข้า ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก/ผู้สูงอายุ 120 บาท เวลาเปิด-ปิด 09.00- 20.00 น.
ไหว้พระ วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่บนเขา มีทางเดินขึ้นบันได 158 ขั้น หรือถ้าเดินขึ้นไม่ไหวสามารถนั่งรถรางไฟฟ้าได้ มีค่าบริการไป-กลับ 10 บาท/คน มาถึงแล้วควรไปสักการะ “หลวงพ่อชินประทานพร” พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี แล้วไปต่อ “พระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท” เป็นเจดีย์สีอิฐ 9 ชั้น ทรงแปดเหลี่ยมที่มีความสวยงามโดดเด่น ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย เป็นจุดมองเห็นวิว แม่น้ำแม่กลอง ภูเขา ทุ่งนา ชมวิวทิวทัศน์บริเวณรอบอำเภอท่าม่วง แบบ 360 องศา สวยงามประทับใจจริงๆ
วัดบ้านถ้ำ หลวงพ่อใหญ่
วัดบ้านถ้ำ อยู่ในอำเภอท่าม่วง เป็นโบราณสถานทางพุทธศาสนาเก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัด สันนิษฐานสร้างในสมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยาติดต่อกัน เพราะพระพุทธรูปเป็นพระประธานในถ้ำและใบพัทธสีมาอุโบสถเก่าของวัดเป็นสมัยสุโขทัย ส่วนพระพุทธรูปหินทรายเป็นสมัยกรุงศรีอยุธยา บริเวณทางเข้าถ้ำมีทางขึ้นเป็นบันไดกว่า 269 ขั้น เป็นลวดลายของนาคและมังกร ในถ้ำเป็นประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัยสมัยสุโขทัยนามว่า "หลวงพ่อใหญ่" เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านทั่วไปเคารพนับถือมาก ขึ้นไปสูงสุดแล้วเราก็จะสามารถชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำแม่กลอง ขุนเขา และตัวเมืองกาญจนบุรี
เก็บกันครบแล้ว สำหรับทริปหนีร้อน ไปเที่ยวเมืองกาญจนบุรี เช็คอิน 9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต เป็นทริปเที่ยวกาญจนบุรีที่คุ้มมาก เพราะได้ทั้งที่เที่ยวประวัติศาสตร์ วัด ธรรมชาติ แบบครบทุกรส ไม่มีเบื่อเป็นวิถีท่องเที่ยวพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ อีกด้วย คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ใครสนใจอยากไปเที่ยวกาญจนบุรี แต่ยังไม่รู้จะไปพักที่ไหนดี แนะนำ ที่พักกาญริมน้ํา นอนชิลวิวธรรมชาติ หนีร้อนไปเล่นน้ำและสนุกไปกับกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
กาญจนบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติและที่เที่ยวกาญยอดฮิตให้นักท่องเที่ยวได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกจากนี้แล้วสำหรับสายกาแฟหรือชอบนั่งชิล เราขอแนะนำคาเฟ่กาญจนบุรีที่แต่ละร้านรสชาติดีไม่แพ้กัน แถมบรรยากาศยังดีอีกด้วย ส่วนถ้าต้องการทานอาหารแบบจริงจัง ต้องไปร้านอาหารกาญจนบุรีบรรยากาศดีรับรองว่าถูกปากทุกคนแน่นอน ส่วนใครที่ต้องการค้างคืน สามารถเลือกที่พักริมน้ำและที่พักกางเต็นท์ในสไตล์แบบที่คุณชอบได้เลย
{{item.date}}