รีวิวเที่ยวกาญจนบุรีสุดง่ายสไตล์คนโสด มาคนเดียวก็เที่ยวได้

Must Do

ถ่ายรูปกับทุ่งนาและภูเขาให้รู้ไปเลยว่าโสดที่ ระเบียงนาคาเฟ่
แวะไปนอนชาร์จแบตชีวิตริมน้ำที่ บ้านไม้ชายน้ำ ณ หมอเฒ่า เสพธรรมชาติแบบใกล้ชิด ให้ชีวิตได้ชิลบ้าง

Must Go

เช็คอินกับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี
แวะถ่ายรูปกับสุสานสัมพันธมิตรดอนรัก
เรียนรู้ประวัติศาสตร์พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ที่ ช่องเขาขาด
แวะชมปราสาทหินที่ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
สถานีรถไฟถ้ำกระแซ ตื่นเต้นไปกับการเดินย้อนเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เดินเท้าไปชมน้ำตกชื่อดังที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี
วัดถ้ำเสือ แวะเที่ยววัดสวยตั้งอยู่บนภูเขาสูง
วัดถ้ำเขาน้อย ตื่นตาไปกับวิวมุมสูงของทุ่งนา ภูเขา และแม่น้ำ แบบพาโนรามา

Must Eat

Din Café คาเฟ่สายธรรมชาติ กับอาหารฟิวชันแสนอร่อย นั่งชิลชมวิวพระอาทิตย์ตกริมน้ำ
แวะทานสารพัดเมนูผัก พร้อมชิมเมนูปลาพื้นถิ่นที่ ครัวผักหวานบ้าน ไร่นฤบดินทร์ ​​​​​​​

ที่เที่ยวกาญจนบุรี - วันที่ 1

ระเบียงนา คาเฟ่

เช็คอินกันที่ “ระเบียงนา คาเฟ่” วิวภูเขาโอบล้อมทุ่งข้าว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมแวะกินอาหารมื้อบ่ายของวัน แล้วไปนั่งชมวิวบนตาข่ายถ่ายรูปวนไป เรียบง่ายแต่รู้สึกดี มีกิจกรรมปั่นจักรยาน ชมบริเวณโดยรอบให้ได้ทำกันแก้เบื่อ มีเมนูแนะนำอย่าง ข้าวหมูสามชั้นผัดกะปิ ข้าวผัดต้มยำปลากระป๋อง บ๊วยสไปร์ท เสาวรสโซดา ใครชอบบรรยากาศมากอยากพักผ่อนเขาก็มีบริการ ในส่วนที่พักวิวดีงาม เปิดม่านออกมาคือวิวทุ่งนาเขียวๆ เลย ราคาห้องพักรวมอาหารเช้า เริ่มต้นที่ 1,299 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 -19.00 น. ปิดทุกวันพุธ ใครอยากเที่ยวพักผ่อนหรืออยากมานอนพักใจ ก็ไปกันได้เลย

สุสานสัมพันธมิตรดอนรัก

“สุสานสัมพันธมิตรดอนรัก” ที่พักสุดท้ายของบรรดาทหารเป็นเชลยศึกจากฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งเสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะเพื่อเชื่อมต่อไทยไปยังพม่า ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในสุสานบรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตไว้ถึง 6,892 หลุม ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 17 ไร่ ที่ถูกตกแต่งอย่างสงบร่มรื่น เรียบง่ายสบายตา แวะมาถ่ายภาพบรรยากาศเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์จากหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ในอดีตกันได้ เวลาเปิดให้เข้าชม 08.00-17.00 น.

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

เดินชมความสวยงามกับสะพานเหล็กความยาว 300 เมตร เป็นอีกส่วนสำคัญของการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในอดีตเคยถูกทิ้งระเบิดจนทำให้สะพานหักมาแล้ว ปัจจุบันสะพานข้ามแม่น้ำแควกลายเป็นจุดเช็คอินที่ใครมาเมืองกาญจน์ก็ต้องแวะถ่ายรูป และถ้าใครอยากซื้อพลอยเมืองกาญจน์กลับบ้านไปด้วยก็แวะดูชมกันได้ เพราะไม่ไกลจากสะพานมีร้านค้าอัญมณีให้เลือกช็อปกันเพลินเชียว

DIN Café

เย็นๆ แสงสวยบรรยากาศมันได้ชวนคนโสดทั้งหลายมาเช็คอินกัน “DIN Café” คาเฟ่สุดเท่ บรรยากาศชิลริมแม่น้ำแคว ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับ Tara Villa River Kwai Resort ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควเพียง 3 กิโลเมตร ถ่ายรูปสุดชิคกับกำแพงดิน แล้วเอนกายเบาๆ บนเบาะนิ่มๆ ริมน้ำ ดูวิวต้นไม้ท้องฟ้าและพระอาทิตย์ตกดิน นั่งกินมื้อเย็นกับอาหารสไตล์ฟิวชัน ปิดท้ายวันด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ราคาเริ่มต้นเครื่องดื่ม 65 บาท ส่วนอาหารเริ่มต้น 160 บาท ใครอยากมีโมเมนต์แบบนี้บ้าง ก็ตามไปเช็คอินกันได้ทุกวัน ตั้งแต่ 10.30-20.00 น. วิวหลักล้านเพลินตา อาหารหลักร้อยโดนใจ อะไรจะฟินไปกว่านี้

ที่เที่ยวกาญจนบุรี - วันที่ 2

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์อยู่ห่างออกมาประมาณเกือบ 40 กิโลเมตร เพื่อมาชมความสวยงามในแบบฉบับขอม ผ่านโบราณสถานและโบราณวัตถุที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย บนพื้นที่กว่า 641 ไร่ ภายในมีส่วนของอาคารจัดแสดงโบราณวัตถุ หลุมที่พบโครงกระดูกของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โบราณสถาน 4 จุดกระจายตัวอยู่รอบพื้นที่อุทยาน และบ้านพักในอุทยาน ปราสาทเมืองสิงห์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ถือเป็นโบราณสถานที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากใช้สถาปัตยกรรมแบบเดียวกันกับปราสาทหินที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ปราสาทหินพิมายบรรยากาศภายในอุทยานร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เยอะ เที่ยวสนุก แถมได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ เพิ่มเติมจากหน้าประวัติศาสตร์ โสดสายอาร์ตอย่าพลาด

สถานีรถไฟถ้ำกระแซ

สถานีรถไฟถ้ำกระแซ” ไม่ใช่ว่าจะมาขึ้นรถไฟไปเที่ยว แต่จะมาเดินเก๋ๆ ไปบนเส้นทางรถไฟสายมรณะ เพื่อแวะเก็บภาพสวยๆ ของทางรถไฟเลียบไหล่เขา วิวแม่น้ำสูงอยู่เบื้องล่าง เดินไปไม่ไกล พบกับ “ถ้ำกระแซ” อีกถ้ำสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายมรณะ เพราะเดิมทีคือที่พักของบรรดาเหล่าเชลยสงครามผู้ต้องทำงานก่อสร้างทางรถไฟ ใครจะไปเที่ยวชมก็ลองเช็คตารางเดินรถไฟเสียก่อน เลือกเวลาถูกจะได้รูปรถไฟวิ่งเลียบผากลับไปเป็นของฝากด้วย

ครัวผักหวานบ้าน ไร่นฤบดินทร์

เที่ยวหนักจนตาลาย เริ่มหิวขึ้นมาก็ต้องหาของอร่อยกินสักหน่อย จะได้มีพลังชีวิตไปเที่ยวต่อ “ครัวผักหวานบ้าน ไร่นฤบดินทร์” ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ โล่งโปร่ง สดชื่น ตั้งอยู่ห่างจากถ้ำกระแซเพียง 15 นาที มีเมนูน่าสนใจ เช่น ผัดผักหวานไฟแดงกุ้งสด ส้มตำผักหวานกรอบ ห่อหมกปลาช่อนผักหวาน และเมนูปลาท้องถิ่นอย่างปลาคัง ตบท้ายด้วยเมนูของหวานแนะนำ ข้าวหลามมะพร้าวอ่อน และหม้อแกงเผือก อยู่ที่คุณเลือกตามความชอบได้เลย ใครชอบอาหารรสชาติจัดจ้านก็ต้องลองมาจัดสักจาน

ช่องเขาขาด

ตั้งอยู่ในอำเภอไทรโยค อนุสรณ์สถานถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเชลยศึกที่เสียชีวิตจากการสร้างรถไฟสายมรณะ ภายในประกอบด้วยส่วนของพิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรีที่จัดแสดงเรื่องราวชีวิตและความเป็นอยู่ของเชลยมาเป็นแรงงานเจาะหินภูเขาด้วยมือ บริเวณภายนอกมีจุดชมวิว และเส้นทางเดินผ่านป่าสองข้างทางไปยัง ช่องเขาขาด สถานที่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ ใครสนใจแวะมาเที่ยวชมและร่วมรำลึกถึงบันทึกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ได้ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

บ้านไม้ชายน้ำ ณ หมอเฒ่า

ที่พักสุดฟินริมน้ำ บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ แบบมีเขาอยู่ข้างหน้าติดกับริมน้ำ ห้องพักตกแต่งสวยน่านอน เปิดม่านปุ๊บจากที่ไม่มีใครก็จะเจอ (ภู) เขารอเราอยู่ ใครมาเช็คอินแล้วไม่อยากไปไหนต่อก็พายเรือชมวิวสวยๆ กันได้ ตกกลางคืนค่อยจัดหมูกระทะร้อนๆ กินริมน้ำ เคล้าสายลมเย็นๆ สนใจก็ตามมาพักกันได้ มีห้องพักหลายรูปแบบ ราคาเริ่มต้นที่ 899 บาทเท่านั้น วิวสวยเบอร์แรง โสดสายชิลจะรออะไร

ที่เที่ยวกาญจนบุรี - วันที่ 3

น้ำตกเอราวัณ

“น้ำตกเอราวัณ” น้ำตกใสสีฟ้าอมเขียวสุดอลัง หลังจ่ายค่าธรรมเนียมอุทยานแล้วก็เดินเท้าตามเส้นทางไปเป็นระยะ 500 เมตร จะถึงตัวน้ำตก ด้านในมีเส้นทางให้ได้เดินผจญภัยไปยังน้ำตกถึง 7 ชั้น รวมไปถึงจุดชมวิวผืนป่าอยู่ระหว่างทางด้วย ใครอยากมาเที่ยวที่นี่แต่ไม่สะดวกขับรถมาเองจากตัวเมือง มีรถบัสให้บริการเป็นรอบๆ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.20 น. แต่ถ้ายังเที่ยวไม่อิ่ม อยากใช้เวลาต่ออีกนิด แนะนำให้จองบ้านพักในอุทยานไว้เลย ราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท แนะนำคนโสดสายรักสงบอย่าพลาดการมาเช็คอิน

วัดถ้ำเขาน้อย

แวะมาเที่ยววัดสวยของเมืองกาญจน์กันสักหน่อย กับ “วัดถ้ำเขาน้อย” ที่ตั้งอยู่ในตำบลม่วงชุม วัดฝ่ายอนัมนิกายก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2426 บนพื้นที่กว่าเกือบ 10 ไร่ โดดเด่นสะดุดตาเป็นที่สุดต้องยกให้ เจดีย์หมื่นพุทธะ เจดีย์เก๋งจีน รูปทรงแปดเหลี่ยม มีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ในแต่ละชั้นก็มีพระพุทธรูปปางต่างๆ และเมื่อเราเดินขึ้นไปถึงด้านบนจะพบวิวสวยมาก ได้เห็นทั้งทุ่งนาและภูเขา รวมไปถึงแม่น้ำแม่กลองอีกด้วย

วัดถ้ำเสือ

ปิดท้ายกันกับอีกวัดที่ไม่ไกลกัน วัดถ้ำเสือตั้งอยู่ห่างจากวัดถ้ำเขาน้อยเพียง 160 เมตร วัดมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด แวะมากราบหลวงพ่อชินประทานพร พระองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี และสักการะพระบรมสารีริกธาตุภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนการขึ้นไปชมพระเจดีย์ด้านบนนั้น สามารถเลือกได้ว่าจะเดินขึ้นบันไดนาค 157 ขั้น หรือจะขึ้นรถรางไฟฟ้าก็แล้วแต่ความสะดวก ด้านบนพระเจดีย์ก็ยังมีวิวสวยๆ แบบ 360 องศา ให้ได้ชมธรรมชาติของเมืองกาญจน์   

ชาวโสดทั้งหลายเห็นทริปแล้วอยากออกเดินทางกันบ้างหรือยัง ใครเล็งเที่ยวกาญจนบุรีไว้อย่าลืมมาจัดสักทริป จะได้บรรยากาศฮิปๆ กลับไปแน่นอน อย่าลืมตามกันต่อว่าทริปหน้าจะชวนไปลั้นลาที่ไหนอีก