จองทริป ครบ จบที่เดียว
ดาวน์โหลด Robinhood เลย

Download

Must go!

ชวนขึ้นเขาเช็คอิน 7 ที่เที่ยวเขาค้อ อากาศดีแนบชิดธรรมชาติ

หนาวนี้ไปเที่ยวเขาค้อ ให้ธรรมชาติโอบกอดปลอบประโลมหัวใจเราให้พองโต
​​​​​​​
จากพื้นที่รอยต่อในช่วงสงครามก่อการร้ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 จนผ่านวิกฤติต่างๆ กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่คนรักการผจญภัยชื่นชอบ ยิ่งในช่วงฤดูหนาวเที่ยวเขาค้อจะมีวิวทะเลหมอกโอบล้อมด้วยธรรมชาติและป่าไม้นานาพรรณ รวมไปถึงน้ำตกมีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี หนาวนี้ไปเที่ยวเขาค้อ ให้ธรรมชาติโอบกอดปลอบประโลมหัวใจเราให้พองโต
​​​​​​​

1.อุทยานแห่งชาติเขาค้อ

มีเนื้อที่ 301,698 ไร่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ อุดมด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และมีทิวทัศน์สวยงาม
มีทั้ง น้ำตก ถ้ำ เกาะ แก่ง หน้าผา จุดชมทิวทัศน์ แหล่งประวัติศาสตร์ของสมรภูมิการสู้รบระหว่างรัฐบาลกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
ปัจจุบันมีการจัดสร้างอนุสาวรีย์ผู้เสียสละจารึกชื่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในสงคราม ทั้งยังมีพระตำหนักเขาค้อที่สวยงามและอากาศบริสุทธิ์
​​​​​​​
ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

2.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

จากความเชื่อของชาวบ้าน เชื่อว่า มีลูกแก้วลอยลงมาจากท้องฟ้าก่อนจะลับหายไปบริเวณถ้ำที่ยอดเขา
ซึ่งกล่าวกันต่อมาว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าเสด็จลงมา จึงเป็นที่ตั้งของพุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม รายล้อมด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน ผสานความงดงามของเจดีย์และลวดลายการตกแต่งจากถ้วยชามกระเบื้องและหินสีดูแปลกตา
ศิลปะที่ถูกประดับประดาอย่างสวยสดงดงาม รวมทั้งองค์พระพุทธรูปสีขาวประดิษฐานเรียงกัน 5 องค์ มองเห็นโดดเด่นแต่ไกล
​​​​​​​สิ่งนับถือสักการะของชาวพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนสถานที่อันศักด์สิทธิ์แห่งนี้

3.ไร่ GB ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

จุดนัดพบสายเซลฟี่ เพราะทุกพื้นที่เหมาะแก่ถ่ายภาพเก็บช็อตความประทับใจ บนพื้นที่กว้างใหญ่ ณ ทุ่งกังหันลมสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า
ซึ่งเป็นจุดชมวิวพาโนรามาสวยงามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งยังมีทุ่งดอกไม้เมืองหนาว และดอกเวอร์บีน่า
นักท่องเที่ยวต้องแวะมาถ่ายรูป ทุ่งกังหันลมแห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูง 1,050 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้แบบสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
​​​​​​​ส่วนใครอยากได้รูปบรรยากาศดีๆ แนะนำให้มาช่วงฤดูหนาว รับรองว่าได้รูปสวยๆ ไปอัปโซเชียลเรียกยอดไลค์กันรัวๆ

4.จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ

อีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ และลานกางเต็นท์ แม้ทางขึ้นจะลาดชันแต่คุ้มค่ากับการล่าภาพวิวในฝันแน่นอน โดยเฉพาะถ้าคุณมาตอนเช้าจะมีโอกาสได้ชมทะเลหมอก
​​​​​​​ยิ่งในฤดูหนาวอากาศบนนี้ยิ่งดีเป็นพิเศษ

5.อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง

ครอบคลุมพื้นที่ถึง 2 จังหวัด คือจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้จึงทำให้มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายจนได้รับสมญานามว่า ทุ่งสะวันนาเมืองไทย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 60 กิโลเมตร ตามเส้นทางในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงเหมาะแก่การสำรวจและศึกษาธรรมชาติ มีป่าเบญจพรรณ
​​​​​​​พบเห็นสัตว์ป่าออกมาหากินและใช้ชีวิต อีกทั้งยังมีพันธุ์ไม้ดอกให้พบเห็น และที่สำคัญมีบริการบ้านพักและพื้นที่สำหรับกางเต็นท์คนชอบแคมปิ้งต้องมาสักครั้งในชีวิต

6.น้ำตกศรีดิษฐ์

แหล่งท่องเที่ยวหลักของเขาค้อ มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน
น้ำตกศรีดิษฐ์เป็นหินชั้นขนาดใหญ่ มีชั้นเดียว มีน้ำตลอดทั้งปี รวมทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำเข็ก ซึ่งมีลำธารไหลต่อเนื่องมาจากเขาค้อ
​​​​​​​คนพื้นที่เล่าว่าคอมมิวนิสต์เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับการดำรงชีพในป่า เป็นชุมชนขนาดย่อมยังมีหลักฐานและของใช้หลายๆ อย่างอยู่ตรงบริเวณน้ำตก

7.แก่งบางระจัน เขาค้อ

แก่งบางระจันนักท่องเที่ยวสามารถมาเล่นกิจกรรมผจญภัย พายเรือ เที่ยวป่า หรือตามหาแมงกะพรุนน้ำจืดในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม
นอกจากมีกิจกรรมผจญภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และมีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน
​​​​​​​โดยนักท่องเที่ยวสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านในการเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในพื้นที่ด้วย

Writer

เกศณัฐษ์ เขมะกัตติมาศฐ์

ไกด์เรนนี่ ผู้ชอบเขียนและถ่ายรูป พร้อมทำบันทึกในทุกที่ที่ไป ด้วยความเชื่อที่ว่า ภาพ 1 ใบ สามารถบรรยายได้ล้านคำพูด และหนึ่งความทรงจำดีๆ สามารถถ่ายทอดได้ไม่มีวันสิ้นสุด

Comments

ความคิดเห็นจากผู้อ่าน
({{comment_all}} ความคิดเห็น)