พาไปเก็บแต้มบุญไหว้พระ 9 วัด นครนายก

1.วัดมณีวงศ์

ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง วัดเก่าแก่ มีอายุกว่า 100 ปี โดยมีหลวงพ่อพระปางป่าเลไลย์อยู่ในอิริยาบถประทับนั่งบนก้อนศิลา พระบาททั้งสองวางอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายยกมือขึ้น พระปางนี้เป็นพระบูชาสำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืน นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพุทธศิลป์สวยงามควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง โดดเด่นด้วยลวดลายงานแกะสลัก เริ่มตั้งแต่ซุ้มประตูวัด วิหารเซียนมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านบน พระอุโบสถ

2.พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สวนพุทธชยันตี 2600 ปี

ตั้งอยู่ตำบลสาริกา ริมทางหลวงหมายเลข 3050 ทางไปน้ำตกสาริกา ประดิษฐานพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 13.5 เมตร โดยรอบมีพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 90 เซนติเมตร จำนวน 1,250 องค์ แสดงให้เห็นถึงวันจาตุรงคสันนิบาต หรือการชุมนุมใหญ่ในวันมาฆบูชา พระพุทธสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงประทานการอุปสมบทด้วยพระองค์เอง พระพุทธรูปทั้งหมดตั้งอยู่กลางแจ้ง มีภูเขาล้อมรอบสีเขียวขจี ท้องฟ้าโปร่งสดใส อุทยานฯ สร้างขึ้นในโอกาสพุทธชยันตีครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แนะนำให้มาเดินเที่ยวในช่วงเช้าแดดจะได้ไม่ร้อนมาก

3.อุทยานพระพิฆเนศ

อุทยานพระพิฆเนศ เดินทางจากตัวเมืองไปทางถนนสาริกา-นางรอง อุทยานฯ สร้างอยู่บนเนื้อที่ 16 ไร่ เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของนครนายก ถูกสร้างขึ้นจากพลังศรัทธาของประชาชน โดยมีพระบรมสารีริกธาตุอัญเชิญมาจาก 9 ประเทศผู้ศรัทธาได้กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

4.วัดจุฬาภรณ์วนาราม

สร้างขึ้นในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระชนมายุ 50 พรรษา และได้พระราชทานนามวัด “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” ด้านหน้าวัดฯ มีซุ้มป่าไผ่เป็นอุโมงค์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เอียงเข้าหากันระหว่างทางเดินทอดยาวกว่า 800 เมตร กลายเป็นจุดดึงดดูดนักท่องเที่ยวที่มาวัดต้องแวะถ่ายรูป นอกจากความสงบร่มเย็น ยังได้รูปเหมือนเดินอยู่ป่าไผ่ที่อาราชิยามะ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ภายในวัดมีพระบรมสาริกธาตุพุทธเตชะมงคลชัย ให้ประชาชนนได้เข้าสักการะบูชา และบริเวณรอบๆ วัดยังมีพรรณไม้นานาชนิดให้ได้เดินชมธรรมชาติ เช่น ต้นยางนา ต้นโพธิ์อินเดีย ต้นพระพุทธเจ้า 5 องค์

5.วัดเลขธรรมกิตติ์

วัดเก่าแก่สมัยปลายกรุงศรีอุยธยา มีโบสถ์อายุกว่า 149 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2415 เล่ากันว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงเคยมาประทับเสวยพระกระยาหารที่แห่งนี้ ซึ่งตัววัดเหลือให้เราเห็นเพียงผนังบางส่วนและซุ้มประตูวัดถูกปกคลุมได้ด้วยรากของต้นโพธิ์ขนาดใหญ่กลายเป็นสถาปัตยกรรมธรรมชาติสุด Unseen บริเวณกลางโบสถ์ มีศาลาขนาดเล็กประดิษฐานพระพุทธรูป ให้ได้กราบไหว้บูชา กลายเป็นจุดท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของจังหวัดนครนายกอีกแห่งเลย

6.วัดคีรีวัน

มีปราสาทขอมองค์ใหญ่เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโพธิ์ อายุ 1,000 ปี พระพุทธรูปปางนาคปรกแกะสลักจากไม้ต้นโพธิ์ สิ่งโดดเด่นของวัดนอกเหนือจากพระพุทธรูปอายุกว่า 1,000 ปีแล้ว ยังมีพระแก้วมรกตองค์จำลอง เนื้อเรซิ่น กว้าง 49 นิ้ว 32 นิ้ว หนัก 1 ตัน มีเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดูตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัต ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารบนยอดเขา ถือเป็นพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

7.วัดใหญ่ทักขิณาราม (วัดใหญ่ลาว)

วัดเก่าแก่ ถือว่าเป็นวัดแห่งแรกของจังหวัดนครนายกเลย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศร่มรื่น โดดเด่นด้วยพระอุโบสถเก่าแก่สร้างโดยช่างชาวเวียงจันทน์มีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 10.15 เมตร สูง 10 เมตร เครื่องไม้มุงกระเบื้อง ก่ออิฐถือปูน บานประตูเป็นไม้แกะสลักกรอบด้านขวาเป็นรูปยักษ์หน้าบันแกะสลักรูปเทพพนม กำแพงแก้วมีซุ้มประตูโค้งเลียนแบบศิลปะตะวันออก มีทหารสวมหมวกแต่งกายแบบยุโรปถือกระบองเป็นทวารบาลด้านละ 2 คน โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2539

8.วัดเขาทุเรียน

หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านเรียกคือ วัดสีชมพู เนื่องจากวัดทาสีชมพูทั่วทั้งวัด ทั้งอุโบสถ วิหาร ศาลา สีสันสวยงาม กลายเป็นวัดที่เหล่านักท่องเที่ยวปักหมุดให้ความสนใจเดินทางมาชมความสวยงามสดใสของวัด บริเวณอุโบสถมีบันไดนาคสีทองบนพื้นผนังกำแพงทางขึ้นสีชมพูทอดยาวไปจนถึงตัวอุโบสถ ซึ่งดอกไม้ที่ใช้ในการสักการะบูชายังเป็นสีชมพูเลย
อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัด คือ ปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด หรือโบสถ์หลังเก่ามีอายุกว่า 200 ปี เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไปซึ่งปัจจุบันได้บูรณะเป็นวิหาร มณฑป ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท พระโพธิสัตว์กวนอิม พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช และพระสังกัจจายน์ ซึ่งตั้งอยู่บนไหล่เขาเหนือโบสถ์เก่าขึ้นไป 100 เมตร

9.วัดศรีกะอาง

ปิดท้ายด้วยวัดศรีกะอางมีพระพุทธชินราชใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงจากพื้นดินกว่า 150 เมตร สามารถมองเห็นได้แต่ไกล บริเวณด้านหน้าขององค์พระ มีกระถางธูปทำจากสแตนเลสขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย อีกทั้งบริเวณวัดยังมีอุโบสถสร้างแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและจีน จุดเด่นของพระอุโบสถ คือ ขอบประตู หน้าต่าง ประดับตกแต่งด้วยถ้วยชามสมัยโบราณที่ชาวบ้านมอบให้ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางพิชิตมาร ซึ่งมีพระนามของสมเด็จพระสังฆราชจารึกไว้

สายบุญทุกท่านน่าจะได้ไอเดีย สำหรับการเดินสายไหว้พระทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลในปีหน้ากันแล้ว พร้อมกับเดินทางท่องเที่ยวไปถ่ายรูปสวยๆ ตามวัดวาอารามต่างๆ เรียนรู้ประวัติแต่ละวัด และเก็บบรรยากาศเรื่องเล่ากลับมาส่งต่อภาพความประทับใจให้กับคนที่บ้านได้ชื่นชมความงามและอิ่มบุญไปตามๆ กัน