จองทริป ครบ จบที่เดียว
ดาวน์โหลด Robinhood เลย

Download

หลายคนอาจไม่ชอบฤดูฝน เฉอะแฉะ และไม่อยากออกไปเที่ยวไหนเลย แต่รู้ไหมว่า คุณกำลังพลาดสิ่งสวยงาม และหลายสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามที่สุดในช่วงหน้าฝนนี่แหละ อย่างการเที่ยวภูเขาชมทะเลหมอกหน้าฝน นอกจากได้ฟินกับกลิ่นไอของฝนและอากาศเย็นๆ แบบไม่หนาวจนเกินไปแล้ว ยังได้ชมทะเลหมอกสุดอลังการแบบจุใจยิ่งกว่าฤดูกาลอื่นๆ สวยแบบต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้นถึงจะคุ้ม เรารวมมาให้แล้ว 10 จุดวิวสวย ทะเลหมอกสวยสุดใจ

20220219_s_xED4RV64iP.jpeg

1.ดอยเสมอดาว น่าน

ดอยเสมอดาว อยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานศรีน่าน เป็นแนวสันเขามีความสูงไม่มากนัก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 888 เมตร นักท่องเที่ยวนิยมมาชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า พร้อมสัมผัสอากาศเย็นสบาย หรือถ้าหากใครอยากใกล้ชิดธรรมชาตินานๆ สามารถค้างคืนบนดอยเสมอดาวได้เลย มีลานกางเต็นท์ และบ้านพักของอุทยานให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

20220219_s_bx1YQgdVJG.jpeg

2.ภูชี้ฟ้า เชียงราย

ยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลมเป็นแนวยาวชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า "ภูชี้ฟ้า" เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามอีกแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังมีวิวของภูเขาสลับซับซ้อน ซึ่งในตอนเช้า ทะเลหมอกปกคลุมบริเวณเขาด้านล่าง และมีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก สวยงามมากๆ ต้องมาดูด้วยตาตัวเอง รูปที่เห็นคือธรรมดาไปเลย

20220219_s_DFoRNf1NXc.jpeg

3.ดอยหลวงเชียงดาว เชียงใหม่

ยอดดอยจัดว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจาก "ดอยอินทนนท์" และ "ดอยผ้าห่มปก"  ด้วยความสูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยในทุกปี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวดอยได้ เป็นเวลา 5 เดือนเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ไปจนถึง 31 มีนาคม จากบนยอดดอย นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และสามารถสัมผัสกับอากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี

20220219_s_UzZ2WBHFoX.jpeg

4.จุดชมวิวม่อนหยุนไหล แม่ฮ่องสอน

จุดชมวิวม่อนหยุนไหล ในอำเภอปาย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางขึ้นไปจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ในช่วงเวลา 05.30 น. เพื่อรอชมแสงแรกแย้มจากพระอาทิตย์ และสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นในยามเช้า หากใครติดใจบรรยากาศความงามและความสงบของม่อนหยุนไหล บนจุดชมวิวม่อนหยุนไหลมีให้บริการห้องพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ และร้านค้าให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย เลือกกันได้ตามสะดวกเลย

20220219_s_dLV79XxP6e.jpeg

5.ภูตาจอ พังงา

ภูตาจอ เป็นจุดชมวิวมีความสูงที่สุดของเมืองพังงา ตั้งอยู่ในเขตพิทักษ์พันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต การเดินทางสู่ภูตาจอ ใช้บริการรถกระบะนำเที่ยวของชาวบ้านชำนาญเส้นทาง ไม่สามารถขับรถขึ้นไปเที่ยวเองได้เนื่องจากเส้นทางสู่ยอดภูตาจอเป็นดินทรายลื่น และบางช่วงมีความชันถึง 60 องศาเลยทีเดียว  ระยะทางในการเดินทางขึ้นไปถึงยอดของภูตาจอประมาณ 13 กิโลเมตร แต่ใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง เส้นทางโหดสุดๆ แต่เมื่อขึ้นมาถึงแล้วคุ้มค่า ตกอยู่ในภวังค์ของความสวยงามจากทะเลหมอก และแสงพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้า

20220219_s_DWXtM8G8rm.jpeg

6.อัยเยอร์เวง ยะลา

จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง  เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิต เดินทางสะดวกสบาย และมีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง  ตั้งอยู่ในพื้นที่เขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร ไฮไลต์คือ ระเบียงทางเดินที่ยื่นออกไปจากฐาน มีความยาวรวม 63 เมตร ส่วนปลายเป็นระเบียงชมวิวพื้นกระจกใส สามารถมองทะลุลงไปได้ถึงพื้นเบื้องล่าง ชมวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจน และยังได้สัมผัสกับทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด สวยงามอลังการสุดๆ

20220219_s_SACT3RtQp5.jpeg

7.เขาศูนย์ นครศรีธรรมราช

มีความสูง 510 เมตร บนยอดเขาเป็นที่ตั้งของสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคม มีจุดชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศา การเดินทางสะดวกสบาย มีการตัดถนนลาดยางขึ้นไปบนเขาแล้ว ในช่วงตอนเช้ามีทะเลหมอกปกคลุมไปทั่ว ใครมองหาที่เที่ยวภาคใต้ ในแบบไม่ใช่เที่ยวทะเล แนะนำให้มานอนชมทะเลหมอก รับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ

20220219_s_PLiuIuNCDz.jpeg

8.ผานับดาว นราธิวาส

คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “ฆุนุง บาตูปูเต๊ะห์” ในภาษามลายู แปลว่า เขาขาว  มีที่มาจากการที่ยอดเขามีหินสีขาว ซึ่งมีส่วนประกอบของแร่ควอตซ์ โดยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 300 เมตร ยอดเขาเห็นตัวอำเภอสุคิริน และเทือกเขาบูโดได้อย่างชัดเจน ด้านหลังของผา เห็นเทือกเขาสันกาลาคีรีได้เป็นแนวยาวเลยทีเดียว มีจุดกางเต็นท์ให้นอนดูดาวและทางช้างเผือกในเวลากลางคืน ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกกับอากาศเย็นสบาย ฟินเหมือนกำลังเที่ยวอยู่ภาคเหนือเลยจริงๆ

20220219_s_IjdYvCnGlO.jpeg

9.จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เพชรบูรณ์

จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2258 เลยพระตำหนักเขาค้อไปทางทุ่งแสลงหลวง การเดินทางไปบนเขาตะเคียนโง๊ะ สามารถขับรถไปเองได้เลย มีจุดกางเต็นท์ให้บริการ ใครต้องการนอนชมดาวยามค่ำคืน ตื่นเช้าขึ้นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมชมทะเลหมอกแบบ 360 องศา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีหมอก และแสงสวยๆ มาให้ชมกันเกือบทุกวัน จากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ ยังสามารถมองไปเห็นเขาปู่ เขาย่าอีกด้วย

20220219_s_cXEORUgeGC.jpeg

10.ภูทอก เลย

ภูทอก จุดชมวิวทะเลหมอกมีชื่อเสียงของเชียงคาน มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ไฮไลต์คือ ชมพระอาทิตย์ในตอนเช้าตรู่ พร้อมชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการ การเดินทางไปยังจุดชมวิวจะต้องขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ไปเท่านั้น ซึ่งเปิดให้ซื้อตั๋วเที่ยวแรกตั้งแต่ตอน 05.30 น. ค่ารถขึ้นภูทอกแบบไป-กลับ คนละ 25 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที สำหรับในช่วงหน้าหนาว อุณหภูมิด้านบนจะอยู่ที่ 6-10 องศา หนาวปากสั่นอยู่นะ

ชอบเที่ยวธรรมชาติ อยากเจอทะเลหมอก แนะนำเที่ยวช่วงหน้าฝน คุณจะได้เห็นทะเลหมอกยามเช้ากันแบบจุใจเลย

Writer

วริษฐา มากชูชิต

เป็นคนที่ชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ชอบที่ได้พาทุกคนไปในที่ๆ เราพบเจอ ที่ ๆ เราประทับใจ การเที่ยวทุกครั้งมักจะมีประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาส และยังมีแรงที่จะเที่ยว ให้ลองออกไป หรือถ้าใครยังไม่พร้อมให้ลองมาติดตามรีวิวท่องเที่ยวของเราก่อนได้ รับรองว่า จะประทับใจและสนุกไปกับเราไกด์ “ ข้าวฟ่าง ”

Comments

ความคิดเห็นจากผู้อ่าน
({{comment_all}} ความคิดเห็น)