เอนกายดูดาวกลางหุบเขา ที่พักสไตล์แกลมปิ้ง อิงแอบธรรมชาติ

เส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามช่องเขาสลับซับซ้อนและลาดชัน พาเราหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง มาแทรกตัว ท่ามกลางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ชนิดที่ว่าไม่ต้องลุกจากเตียงไปไหนเลย ตื่นมาพร้อมเสียงนกร้อง สายหมอกต้อนรับอยู่ หน้าห้อง มองออกไปเห็นป่าสีเขียวขจีโอบล้อมเราไว้ สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ได้ที่ “North Star Valley หุบเขา ดาวเหนือ” เสมือนหลุดออกจากโลก มาพักผ่อนบนดาวอีกดวงหนึ่ง 

หากใครที่ชอบเอาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ หุบเขาดาวเหนือตอบโจทย์นั้นได้อย่างตรงใจ ด้วยที่พักสไตล์ แกลมปิ้งกลางป่า ซึ่ง“แกล้มปิ้ง (Glamping)” เกิดจากการรวมกันของคำว่า Glamorous ที่แปลว่าหรูหรา กับคำว่า Camping ที่แปลว่าการตั้งแคมป์ จึงหมายถึง การเดินทางไปตั้งแคมป์แบบหรูหราและครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ต้องก่อไฟหุงข้าว ก็มีอาหารเช้ามาเสิร์ฟ เรียกได้ว่ากินหรู อยู่สบาย ไม่ต่างจากโรงแรมเลยทีเดียว

Welcome drink สุดสดชื่นรอต้อนรับเมื่อเราไปถึง เรือนไม้หลังเล็กมีระเบียงแบบเปิดโล่งประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากชนิดสีสันสดใส ถูกใช้เป็นทั้งล็อบบี้ ห้องอาหาร และบาร์เครื่องดื่ม หลังจากเช็คอินและนั่งพักจนแดดร่มลมตกแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงไปที่พักด้านล่างกลางหุบเขา บอลลูนลูกกลมใสถูกจัดวางในมุมที่ต่างกัน ลดหลั่นเรียงตัวไปตามไหล่เขา คือห้องพักขนาดอบอุ่น จำนวน 15 ห้อง ในรูปแบบ Bubble Glampling มีชื่อเรียกตามกลุ่มดาวบนท้องฟ้า อาทิ ดาวกระต่ายป่า ดาวนายพราน ดาวสารถี ดาวคนยิงธนู ฯลฯ ซึ่งเป็นดวงดาวที่โคจรอยู่รอบๆ ดาวเหนือ โดยได้รับแรงบันดาล ใจจากสามเหลี่ยมฤดูหนาวในตำราดูดาว 

ภายในตกแต่งเรียบง่าย สบายๆ คุมโทนด้วยสีขาวทั้งผ้าม่านและที่นอนหนานุ่ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น ละมุนตา ทุกห้องสามารถเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกได้เต็มตา ที่คิดว่า สวยมากแล้ว กลางคืนยิ่งสวยมากกว่า นอนดูดาวเต็มฟ้าได้แบบไม่มีอะไรกั้น ใต้แสงของจันทรา โอ้โห ความโรแมนติกคือยืนหนึ่ง ส่วนความหวือหวามาเป็นที่สองด้วยห้องน้ำแบบ Outdoor 100% ตื่นเต้นยิ่งกว่าอะไรใดๆ มีอ่างอาบน้ำใบใหญ่วางกลางแจ้งให้อาบลมห่มดาวหรือจะนอนแช่น้ำมองฟ้า พร้อมวิวพาโนรามาที่อยู่ตรงหน้าก็ควรค่าทั้งสิ้น

ห้องพักของหุบเขาดาวเหนือมีให้เลือก 3 แบบ แตกต่างกันตรงห้องน้ำ ที่มีอ่างอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่น กับไม่มีอ่าง  อาบน้ำและไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่เปิดโล่ง Open air เหมือนกันหมดทุกห้องให้ฟีลบาหลีนิดๆ ด้วยระแนงไม้ไผ่ที่ช่วยปิดบังได้บางมุม ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานโรงแรม เครื่องปรับอากาศ โคมไฟ ปลั๊กไฟ น้ำดื่ม และ  อุปกรณ์อาบน้ำ ความน่ารักคือ เตรียมไว้ในกระเป๋าสานที่สามารถสะพายออกไปทำธุระส่วนตัวได้เสร็จสรรพ ขอบอกว่า ยาสระผม ครีมนวด และสบู่หอมมากๆ เราปลื้ม ส่วนห้องไฮไลท์เพียงหนึ่งเดียวของที่นี่ คือดาวดวงที่ 11 พิเศษด้วยดินเนอร์สุดหรูที่เสิร์ฟถึง Bubble พร้อมตกแต่งโต๊ะอาหารด้วยดอกไม้สดบานสะพรั่งสุดอลังการ เตรียมชุดให้สวย เตรียมกล้องให้   พร้อม ใครพักห้องนี้รับรองว่าเมมเต็มแน่นอน 

นอกจากยืนหนึ่งเรื่องที่พักแล้ว เรื่องอาหารก็ยืนหนึ่งเช่นกัน เราชอบดิสเพลย์บนโต๊ะอาหารของที่นี่มาก รู้สึกตรงจริต ไปหมด ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุงแต่ง หน้าตาของอาหาร ไปจนถึงการเสิร์ฟด้วยภาชนะสุดหรูหราสวยงาม ทุกอย่าง   คืองานศิลปะชิ้นดี ไม่เพียงแค่ความใส่ใจในรายละเอียดที่สัมผัสได้ตรงหน้า แต่รสชาติก็แปลกใหม่กว่าที่จินตนาการไว้ ต้มปี๊ดกระดูกหมู คือเมนูที่ไม่ควรพลาด จัดจ้านถึงใจหากินได้ที่นี่ที่เดียว และหมูกรอบผัดพริกขิงไข่เค็ม ลุยสวนดอกไม้ ดาวเหนือ ถ้าไม่สั่งก็เหมือนมาไม่ถึงหุบเขาดาวเหนือ 

ปิดท้ายก่อนกลับด้วยอาหารเช้าสุดอลังการ ที่เราขอให้คำนิยามว่า อาหารเจ้าหญิง เสิร์ฟมาเต็มโต๊ะทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ โยเกิร์ต ขนมปัง และเครื่องดื่ม ประทับใจที่สุดยกให้โจ๊กข้าวกล้องเครื่องแน่น และสลัดจานใหญ่ผักสดใหม่ราดด้วยน้ำสลัดงา ทุกจานตกแต่งมาอย่างสวยงามด้วยดอกไม้ที่ปลูกเองในสวน  สุดท้ายอย่าลืมถ่ายรูปกับชิงช้าและมุมมหาชนตรงหน้าต่างบานใหญ่ วิวสวยจึ้งมาก! 

เราออกเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมือง พลางนึกถึงเจ้าลูกบอลลูนที่เราทิ้งตัวนอน ว่าหัวใจเราก็เหมือนกับลูกบอลลูน เหล่านั้นที่ต้องหมั่นเติมความสุขให้พองใหญ่ การได้พักผ่อนท่ามกลางหุบเขา ก็เหมือนเราได้สูบลมแห่งความสุขให้หัวใจพองโต พร้อมหลุดออกจากดาวดวงนั้นกลับมาสู่ความปกติบนโลกแล้ว