คู่มือเตรียมตัวเที่ยวเกาะกูดฉบับย่อ อ่านจบ แพ็กกระเป๋าออกเดินทางได้เลย

เที่ยวเกาะกูด เกาะกูดอยู่ที่ไหน?

เที่ยวเกาะกูด เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัดตราด รองจากเกาะช้าง ห้อมล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสมรกต และยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้ได้อย่างครบถ้วน จนได้ชื่อว่าเป็น “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” ซึ่งมาจากน้ำทะเลสีฟ้าใสไม่ต่างจากทะเลอันดามัน และยังมีธรรมชาติหลากหลาย พร้อมด้วยหาดทรายสีขาวละเอียด แค่ได้มองก็รู้สึกสบายใจ ท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติ รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ยังเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งท้องถิ่น จนทำให้ใครก็ตามได้มาเที่ยวเกาะกูด ก็ต่างต้องตกหลุมรัก มาเที่ยวซ้ำ ๆ แบบไม่รู้จักเบื่อ

เที่ยวเกาะกูด ไฮไลต์เด็ดต้องเช็คอิน

1. เที่ยวเกาะกูด หมู่บ้านประมงอ่าวสลัด

เที่ยวหมู่บ้านชาวประมงแห่งเกาะกูด ตั้งอยู่บริเวณอ่าวสลัด มีลักษณะเป็นโค้งรูปตัวยู โดยตามตำนานเล่าว่าชื่ออ่าวสลัดนี้ มาจากโจรสลัด เพราะในอดีตเคยเป็นที่พำนัก พักแรมของเหล่าโจรสลัด ต่อมาได้กลายมาเป็นหมู่บ้านชาวประมงของเกาะกูด เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของวิถีชาวประมงท้องถิ่น ที่ยังรักษากลิ่นอายไว้ได้อย่างสมบูรณ์ แน่นอนว่ามาหมู่บ้านชาวประมงทั้งที ต้องห้ามพลาดชิมอาหารทะเลสด ๆ จากอ่าวไทย ซึ่งภายในหมู่บ้าน มีแม่ค้า พ่อค้ามาตั้งขายอาหารทะเลแบบปรุงพร้อมกินรับลมทะเลกันเลย และที่สำคัญ ราคาไม่แพงอีกด้วย

2. เที่ยวเกาะกูด หาดบางเบ้า

ถือเป็นชายหาดสวยยืนหนึ่งในที่เที่ยวเกาะกูดเลยก็ว่าได้ ชายหาดรูปโค้งที่มีความยาวกว่า 800 เมตร พร้อมทรายสีขาวละเอียด เพิ่มสีสันด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใส แต่งแต้มสีเขียวด้วยต้นมะพร้าวจากสวนมะพร้าวบนเกาะ เหมาะกับมานั่งเล่น ปิกนิก หรือจะเล่นน้ำทะเลชิล ส่วนคนชอบชมพระอาทิตย์ตกดิน ขอปักให้หาดบางเบ้าเป็นหนึ่งในพิกัดชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะกูดเลย

3. เที่ยวเกาะกูด อ่าวคลองเจ้า

เที่ยวเกาะกูด อ่าวคลองเจ้า มาพร้อมทรายเนื้อเนียนละเอียดทอดตัวยาวกว่า 600 เมตร และน้ำทะเลสีฟ้าใส รอต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสบรรยากาศความสวยงามของชายหาดแห่งนี้ โดยอ่าวคลองเจ้าตั้งอยู่ด้านหน้าของน้ำตกคลองเจ้า หากใครเล่นน้ำทะเลเสร็จ สามารถแวบไปเล่นน้ำตกกันต่อได้เลย

4. เที่ยวเกาะกูด น้ำตกคลองเจ้า

มาเที่ยวเกาะกูดใครว่าได้เที่ยวแต่ทะเล เพราะเกาะกูดมีน้ำตกสวยงาม และยังมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์อีกด้วย น้ำตกคลองเจ้า เป็นน้ำตกขนาดกลาง ความสูงประมาณ 10 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ห้อมล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยน้ำตกคลองเจ้าแบ่งได้เป็น 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นสระขนาดใหญ่ เหมาะกับการว่ายน้ำสุด ๆ ซึ่งด้านหน้าของชั้นล่างมีก้อนหินขนาดใหญ่สลักจารึกพระปรมาภิไธยย่อว่า วปร เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เคยเสด็จประพาสที่น้ำตกแห่งนี้ และพระราชทานนามว่า น้ำตกอนัมก๊ก เพื่อเป็นการระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวณที่เคยมาลี้ภัยบริเวณนี้เมื่อสมัยรัชกาลที่ 1

5. เที่ยวเกาะกูด ดำน้ำ 3 เกาะ

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ทะเลเกาะกูดมีความสวยงามไม่แพ้ฝั่งอันดามันเลย ดังนั้นไม่ควรพลาดการออกผจญภัยเยือนใต้ท้องทะเล ซึ่งหากใครต้องการดำน้ำ สามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ดำน้ำจากบริษัททัวร์ท้องถิ่นได้เลย โดยทริปดำน้ำเที่ยวเกาะกูดมักพาไปเกาะยักษ์เล็ก เกาะยักษ์ใหญ่ และเกาะรัง ทั้ง 3 เกาะถือเป็นพระเอกของทริปดำน้ำประจำเกาะกูด ทั้ง 3 เกาะ เต็มไปด้วยเหล่าปะการัง และดอกไม้ทะเลหลากสีสัน พร้อมด้วยน้องปลานานาชนิดคอยแหวกว่ายโชว์ตัวต้อนรับเสมอ และยังมีชายหาดให้แวะเล่นน้ำบนเกาะเก๋ ๆ โดยส่วนใหญ่แพ็กเกจทัวร์ดำน้ำเกาะกูด สามารถเลือกรูปแบบการเดินทางได้ ใครเป็นสายรวดเร็ว ก็ซื้อเป็นเรือสปีดโบ๊ตไปเลย ส่วนใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่น แนะนำเป็นเรือไม้ หรือเรือประมงพื้นบ้าน

6. เที่ยวเกาะกูด จุดชมวิวบ้านอ่าวใหญ่

จุดชมวิวที่หลายคนยกให้ชนะเลิศ ด้วยวิวมุมสูงด้านบน สามารถมองเห็นวิวของเกาะกูดได้แบบสุดลูกหูลูกตา ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชาวประมง รวมไปถึงป่าเขาธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์ของเกาะกูด ที่มาพร้อมอากาศแสนสดชื่นจากต้นไม้โดยรอบ แค่ได้มายืนชมวิวตรงนี้ ก็เหมือนได้ชาร์จพลังใจและกายจนเต็มแล้ว

ฤดูกาลเหมาะกับการมาเที่ยวเกาะกูด

เป็นช่วงทะเลสวย น้ำใส คลื่นลมกำลังดี เหมาะกับการมาเที่ยวเกาะกูด ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องอากาศ เพราะแดดร้อนแรงแบบยาวๆ และสิ่งสำคัญ มาเที่ยวช่วงนี้ ได้ถ่ายรูปสวยมาก ใครชอบถ่ายรูป หรืออยากได้รูปเป๊ะปัง ก็ต้องมาช่วงฤดูร้อน

เที่ยวเกาะกูดฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม)

 ควรงด งดที่แปลว่ายังมาได้อยู่ แต่อาจจะต้องเจอกับฝนตกตลอดทริป หรือสภาพอากาศขุ่นมัว มีแต่เมฆทึบ ซึ่งถ้าหากใครโชคดี อาจจะได้เจอแดดสักหนึ่งวัน แต่ข้อดีของการเที่ยวเกาะกูดฤดูฝนคือ โรงแรมมีโปรโมชั่นเยอะมาก หากใครอยากหนีจากความวุ่นวาย แวบมาพักใจ นอนฟังเสียงคลื่นสงบ ๆ ช่วงนี้สุดเพอร์เฟกต์

เที่ยวเกาะกูดฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) ​​​​​​​

ถึงจะอยู่ในประเทศเมืองร้อน แต่ก็มีความหนาวเย็นมาเยือนในช่วงปลายปี เรียกได้ว่าเป็นช่วงอากาศดี ไม่ร้อน แต่สีสันของทะเลอาจจะไม่สดใสเท่าช่วงหน้าร้อน ซึ่งถ้าใครอยากได้ฟีลเที่ยวเกาะกูดแบบลมเย็น ๆ โรแมนติกชิล ฤดูหนาวคือคำตอบ

การเดินทางเที่ยวบนเกาะกูด

สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะกูด ตามสถานที่ต่าง ๆ มีให้เลือก 2 ประเภทคือ

1. เช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวเกาะกูด

ถือเป็นตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวนิยม เพราะง่าย แต่เนื่องจากเส้นทางบนเกาะกูดค่อนข้างมีความคดเคี้ยว ดังนั้น หากใครขี่มอเตอร์ไซค์ไม่คล่อง อาจเกิดอันตรายได้

2. นั่งรถสองแถวเที่ยวเกาะกูด ​​​​​​​

 เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่เหมาะกับเหล่านักท่องเที่ยวมากันหลายคน เพราะคุ้ม แถมยังไม่ต้องเปิด Google Map เอง จะไปไหนก็แค่บอกคนขับรถ พร้อมรับส่งถึงที่

เกาะกูดมายังไง?

การเดินทางมาเที่ยวยังเกาะกูด มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นคือ การนั่งเรือสปีดโบ๊ต (Speed Boat) ซึ่งหากใครจองห้องพักพร้อมแพ็กเกจ ส่วนใหญ่ทางโรงแรมมีเรือมารับเราตั้งแต่ในตัวจังหวัด และพามาส่งถึงโรงแรม แต่ถ้าหากใครไปเอง สามารถขึ้นเรือสปีดโบ๊ตได้ที่ท่าเรือแหลมศอก มีรอบออกเกือบทุกชั่วโมง แต่แนะนำให้สอบถามไปยังเหล่าผู้บริการเดินเรือ เพื่อตรวจเช็กรอบการเดินทางอีกครั้งก่อนจอง

เตรียมตัวเที่ยวเกาะกูดยังไงดี?

1. เช็กฤดูกาลท่องเที่ยวก่อนออกเดินทางเที่ยวเกาะกูด ​​​​​​​

ควรตรวจเช็กสภาพอากาศและฤดูกาลในการท่องเที่ยวเกาะกูดก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะในหน้ามรสุม มีคลื่นลมแรง และฝนตก อาจจะทำให้พลาดกิจกรรมที่วางแผนไว้ได้

2. ตรวจสอบตารางการเดินเรือสปีดโบ๊ต ​​​​​​​

ตารางการเดินเรือในแต่ละฤดูกาล อาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งหากใครไม่ตรวจสอบให้ดี อาจจะพลาดเที่ยวเรือเดินทางได้ โดยเฉพาะในหน้ามรสุม บางครั้งมีพายุจนไม่สามารถออกเรือได้นั่นเอง

3. ระมัดระวังลิ้นทะเลให้ดี

อีกหนึ่งสิ่งโด่งดังไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะกูดคือ ตัวลิ้นทะเล มักจะซ่อนตัวอยู่ตามชายหาด โดยเฉพาะในฤดูฝน หรือช่วงอากาศชื้น เจ้าลิ้นทะเลชุกชุมมาก ดังนั้นหากใครไปในช่วงนั้น ระมัดระวังใส่กางเกงขายาว หรือหลีกเลี่ยงการเดินชิลริมทะเล และพกยาบรรเทาอาการแพ้จากแมลงกัดต่อย เพราะลิ้นทะเลกัดเจ็บมาก แถมยังทิ้งรอยกัดไว้เกือบเดือนกว่ารอยจะจางหายไป