Summer in Suratthani น้ำสวย ทะเลใส สุราษฎร์ธานี

ยินดีที่ได้รู้จัก สุราษฎร์ธานี

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นชื่อของจังหวัด สุราษฎร์ธานี กันเป็นอย่างดี เพราะว่าจังหวัดนี้นั้นเต็มไปด้วยที่เที่ยวทะเลสวย น้ำใส ภูเขาน้อยใหญ่ ซึ่งสุราษฎร์ธานี หรือเรียกสั้นๆ ว่า สุราษฎร์ฯ เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่สุดของภาคใต้ โดยตั้งอยู่ฝั่งอ่าวไทย แต่เรื่องความใสของน้ำทะเลไม่แพ้ฝั่งอันดามัน และยังเคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัย ท่ามกลางลักษณะภูมิประเทศมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาสูง เกาะที่มีมากถึง 98 เกาะ จึงทำให้สุราษฎร์ธานี อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทั้งด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม

ฤดูกาลท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี

ฤดูกาลท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี
            สำหรับฤดูกาลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกง่ายๆ ว่ามี 2 ฤดูหลักๆ ด้วยกัน ก็คือฤดูฝน และ ฤดูร้อน
ฤดูร้อน (เดือนมกราคม - เดือนเมษายน)
            หรือที่หลายคนเรียกว่า ฤดูท่องเที่ยว (High Season) ช่วงเวลาทองแห่งการมาเยือนสุราษฎร์ธานี ทะเลสวย น้ำใส เที่ยวเกาะได้ไม่หวั่นลมแรง ท้องฟ้าสดใสสมเป็นฤดูร้อน ไม่ว่าจะไปเที่ยวเกาะไหน หรือแหล่งท่องเที่ยวไหนของสุราษฎร์ธานี ก็ปังสุด อันดับหนึ่งในช่วงฤดูร้อนนี้เลย
ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม)
            พอเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ก็เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ฝนชุกมาก แต่ที่พักราคาดีมาก มาเที่ยวภาคใต้ช่วงหน้าฝนเป็นอีกมุมที่สวยงามเหมือนกัน เพราะทั่วทั้งบริเวณจะเต็มไปด้วยสีเขียวและกลิ่นความสดชื่นของธรรมชาติ ใครอยากได้ฟีลแบบนี้ ก็ลองมาเที่ยวหน้าฝนกันดู
ฤดูฝนช่วงที่ 2 (เดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนมกราคม)
            ในขณะที่ส่วนอื่นของประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว แต่สุราษฎร์ธานี กำลังเข้าสู่หน้ามรสุม ยิ่งพื้นที่อื่นๆ อากาศหนาวเท่าไหร่ ฝนก็ยิ่งแรงเท่านั้น เพราะลมมรสุม หรือลมหนาวที่พัดมาจากจีน แนะนำให้หลีกเลี่ยงในช่วงนี้ดีที่สุด เพราะอาจเจอกับมรสุม, พายุหมุนเขตร้อน หรือฝนที่ตกติดกันหลายๆ วันแบบ Non-Stop ซึ่งสำหรับการมาเที่ยวคงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเท่าไหร่

Lorem Ipsum คือ เนื้อหาจำลองแบบเรียบๆ ที่ใช้กันในธุรกิจงานพิมพ์หรืองานเรียงพิมพ์ มันได้กลายมาเป็นเนื้อหาจำลองมาตรฐานของธุรกิจดังกล่าวมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เมื่อเครื่องพิมพ์โนเนมเครื่องหนึ่งนำรางตัวพิมพ์มาสลับสับตำแหน่งตัวอักษรเพื่อทำหนังสือตัวอย่าง

พิกัดเที่ยวห้ามพลาดแห่งสุราษฎร์ธานี

พระธาตุไชยา

วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี หนึ่งในโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ของภาคใต้ ซึ่งภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่เคารพบูชาของชาวใต้ นิยมแวะมาไหว้พระขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต

เจดีย์ลอยฟ้า อุทยานธรรมเขานาในหลวง

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของอุทยานธรรมเขานาในหลวง บนยอดภูเขาหินปูนสูงกว่าระดับพื้นดินถึง 300 เมตร เต็มไปด้วยเจดีย์ลอยฟ้า และเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ โดยเจดีย์ลอยฟ้าแห่งนี้เป็นที่เคารพบูชาของคนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสักการะ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และยังได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติ ภายในอุทยานธรรมฯ มีสถาปัตยกรรมต่างๆ ผสานกับธรรมชาติ จนเกิดเป็นความสวยงามไม่เหมือนใคร

เกาะมัดสุม หรือเกาะหมู

เกาะเล็กๆ  ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสมุย เต็มไปด้วยหาดทรายสีขาวเนื้อเนียนละเอียด ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล แทรกด้วยสีของป่าไม้เขียวขจี แต่ที่เด็ดไม่เหมือนใครคือ เหล่าน้องหมูที่คอยเดินอวดโฉมตามแนวชายหาด และคอยต้อนรับทักทายนักท่องเที่ยวให้ได้ถ่ายภาพแบบใกล้ชิด ถือเป็นอีกประสบการณ์แปลกใหม่ ที่น่ามาสัมผัส

เขื่อนเชี่ยวหลาน

สุราษฎร์ธานีไม่ได้มีแค่ทะเลสวย น้ำใส แต่ยังมีทะเลสาบสวยน้ำใส จนได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสวรรค์บนดิน กับ เขื่อนรัชชประภา หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อ เขื่อนเชี่ยวหลาน ภาพความสวยงามของภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ แทรกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของเขื่อน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หากใครได้มาเที่ยวสุราษฎร์ธานีแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็ต้องมาลองที่เขื่อนเชี่ยวหลานเลย

ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด

อีกหนึ่งที่เที่ยวน้ำใสแห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ใช่ทะเลแต่เป็นบ่อน้ำธรรมชาติใสกริ๊ง ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ให้เราได้สูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ ช่วยให้ผ่อนคลาย จะเล่นน้ำหรือจะล่องเรือชื่นชมธรรมชาติ ก็ดีงามไม่แพ้กัน

เนินทรายเหมืองแกะ

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งที่เที่ยวสุดอันซีน ไม่ใช่น้ำใสแต่เป็นสถานที่เที่ยวสวย ทัศนียภาพอันแสนแปลกตาของภูเขาทรายสูง-เตี้ย สลับกัน ไม่ว่าจะไปยืนมุมไหน รูปก็ออกมาดีทั้งหมด เหล่าอินสตาแกรมเมอร์ต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะงั้นไม่ควรพลาด

การเดินทางมาจังหวัดสุราษฎร์ธานี

​​​​​​​สามารถเดินทางได้ 4 แบบด้วยกัน
รถยนต์ส่วนตัว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมง)
เครื่องบิน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ)
รถทัวร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง)
รถไฟ (ใข้เวลาเดินทางประมาณ 8-12 ชั่วโมง)

แต่ละรูปแบบการเดินทางตอบโจทย์การท่องเที่ยวที่แตกต่างสไตล์กัน แต่แนะนำการเดินทางด้วยรถไฟ เพราะจะได้ซึมซับไปกับบรรยากาศสองข้างทาง พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์การนั่งรถไฟท่องเที่ยว ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของการออกเดินทาง