เรื่องราวของหมอหวาน รอดม่วง (พ.ศ. 2413 - พ.ศ. 2478)
หมอหวานเป็นหมอราษฎร์ ให้การรักษาผู้เจ็บไข้ได้ป่วยแบบแพทย์แผนไทยและมีความรู้ทางแพทย์แผนตะวันตกด้วย จึงได้ใช้ความรู้สามารถทำยาไทยให้เป็นยาสำเร็จแบบฝรั่ง ไม่ต้องใช้การเจียดยาไปต้มกินแบบโบราณ ยาหมอหวานที่ถือเป็นซิกเนเจอร์เลยคือยาหอมสุรามฤทธิ์ปิดทองคำเปลว น้ำมันและขี้ผึ้งทาเส้น น้ำมันและขี้ผึ้งทาแก้พิศม์ และลูกอมชื่นจิตต์ ที่เด็ดจริงๆ เพราะอมคลายวิงเวียน คลายเมารถเมาเรือชะงัดนัก
ภายในอาคารชั้นล่าง เป็นร้านขายยาไทยที่ยังคงรูปแบบและประโยชน์ใช้สอย เช่นเดียวกับเมื่อหมอหวานยังมีชีวิตอยู่ จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของหมอหวาน อาทิ อุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัช ทั้งแผนไทยและแผนตะวันตก ถ้าอยากไปชมพิพิธภัณฑ์อย่างได้เรื่องราวรวมทั้งได้ชมการปิดทองยาหอม ควรติดต่อสอบถามและนัดเวลาเสียก่อนไป
จากพิพิธภัณฑ์บ้านหมอหวาน เดินกลับมาทางวัดสุทัศน์อย่างเดิม ข้ามถนนบำรุงเมืองตรงไฟแดง (อย่าข้ามกลับไปด้านวัดสุทัศน์) เดินมาเรื่อยๆ จะเจอโบสถ์พราหมณ์ เข้าไปไหว้กันสักนิด แล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ จนเจอถนนมหรรณพ ถ้าใครหิวน้ำจะเลี้ยวซ้ายก่อนตรงซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ เพื่อไปแวะนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ที่บ้านขนมปังขิง ก็ได้ แล้วค่อยกลับมาเดินบนถนนดินสอต่อ (จริงๆ จากบ้านขนมปังขิงมีซอยลัดสู่จุดหมายที่ 2 แต่ต้องเล่ายาว เดี๋ยวจะหลงเสียเปล่าๆ)
ร้านหนังสือ World at The Corner ซึ่งเกิดจากความรักในการเดินทางและการอ่านของสองพี่น้อง “สิวิกาและณัฐ ประกอบสันติสุข”
เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมหรรณพ คุณจะผ่านร้านข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ส้มตำ เย็นเตาโฟ เต้าหู้ทอด เผือกทอด กุ้ยช่าย ฯลฯ เรียงราย อย่าหวั่นไหวให้ฮึบไว้ จนถึงซอยมหรรณพ 1 จึงเลี้ยวซ้ายเข้าไปเพียง 10 เมตร ก็จะเจอรั้วไม้ระแนงสีขาวและบ้านไทยแบบสมัยปลายรัชกาลที่ 5 แต่ทาสีสดใส ที่นี่คือร้านหนังสือ World at The Corner ซึ่งเกิดจากความรักในการเดินทางและการอ่านของสองพี่น้อง “สิวิกาและณัฐ ประกอบสันติสุข”
ถ้าคุณเป็นคนชอบเที่ยว อยากเดินทางไปต่างประเทศด้วยความรู้ความเข้าใจในสถานที่นั้นๆ อย่างลึกซึ้งแล้วละก็ World at The Corner จะมีหนังสือดีๆ ให้คุณมาเลือกซื้อ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษซึ่งเจ้าของร้านคัดสรรมาแบบที่คุณจะหาไม่ได้ที่ร้านหนังสืออื่น มีทั้งหนังสือนวนิยายอาหรับ แอฟริกา หนังสือทำมือจากอินเดีย หนังสือเด็ก หนังสืออาร์ต แฟชั่นและหนังสือถ่ายภาพ รวมทั้งหนังสือของหลุยส์ วิตตง ที่ในเมืองไทยจะหาได้เพียงที่ร้านนี้กับหลุยส์ วิตตงช้อป (บางสาขา) เท่านั้น
นอกจากหนังสือ World at The Corner ยังมีของที่ระลึกซึ่งเจ้าของร้านได้มาจากการเดินทางไปที่ “ยากๆ” อย่างแอฟริกาและอเมริกาใต้ แล้วแบ่งปันมาจำหน่าย และถ้าใครต้องการที่จะรู้ว่าไปที่ยากๆ เหล่านั้นไปอย่างไร ไปที่ไหนบ้าง ที่ไหนดี เจ้าของร้านซึ่งอยู่ร้านเองทุกวีค ก็พร้อมจะคุยเรื่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน จนเพลินไปทั้งสองฝ่าย แบบแทบลืมหิวกันเลย
แต่ถ้าใครนึกหิวขึ้นมาได้ จะหาอะไรกินหลังออกจากร้านหนังสือ ก็ขอบอกว่าที่ให้เดินฮึบผ่านร้านอาหารทั้งหลายมาเพราะอยากให้ไปนั่งกินอาหารกลางวันแบบสบายๆ ที่ร้านบ้านลลิณ นั่นเอง
จาก World at The Corner เดินข้ามถนนมหรรณพมาอีกฝั่ง ผ่าน 7-11 เลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ มุมตึกแถวนั้น เดินตรงเข้าไปเจอแยกเลี้ยวซ้าย เดินต่ออีกนิดเดียว เลี้ยวขวาแล้วเดินยาวผ่านบ้านผู้คนไปจนเห็นสะพานเล็กๆ ข้ามคลองหลอด อย่าข้ามสะพาน! ให้เลี้ยวขวาเข้าทางเดินเลียบคลอง แล้วจะเจอประตูทางเข้าบ้านลลิณ
บ้านลลิณ ร้านอาหารในบ้านเก่าโดย 2 เชฟสาวจากรายการมาสเตอร์เชฟ เป็นอาหารแบบจานเดียวง่ายๆ แต่รสชาติเฉียบ ครบเครื่อง ในตัวบ้านไม่มีแอร์ทว่าร่มรื่น นั่งกินอาหารกันได้ไม่ร้อนเลย
เมื่อจบจาก 3 ซีเครตแอดเดรสนี้แล้ว ถ้าใครอยากไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ ไปร้านมนต์ นมสด ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฯลฯ สามารถไปต่อได้ง่ายๆ ไม่น่าจะหลงแล้วทีนี้ !!?!!
หากอยากสั่งอาหารบ้านลลิณ คาเฟ่มากินที่บ้าน ก็สั่งได้เลยในแอปฯโรบินฮู้ด >> https://bit.ly/3IgezbX
{{item.date}}