จองทริป ครบ จบที่เดียว
ดาวน์โหลด Robinhood เลย

Download
เที่ยวกรุงเทพ ย่านเสาชิงช้า เที่ยวกรุงเทพ ย่านเสาชิงช้า

Trip Highlight ย่านเสาชิงช้า

รู้จักยาไทยที่บ้านหมอหวาน

ลิ้มรสอาหารไทยฝีมือเชฟรุ่นใหม่ที่บ้านลลิณ คาเฟ่

เยือนร้านหนังสือ World at The Corner ซึ่งจะพาคุณไปได้ทุกมุมโลก

เริ่มต้นออกหาสถาที่ลับย่านเสาชิงช้า

จริงๆ ที่ที่จะชวนไปชมไปชิมวันนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย เพราะมีคนรีวิวผ่านบล็อก ผ่านคลิป กระทั่งผ่านสื่อหลักมากมาย แต่เพราะสถานที่ตั้ง ซึ่งอยู่ในตรอกซอกซอยทำให้เหมือนจะหายากอย่างไรชอบกล ถ้าไม่รู้จักหรือไม่มีคนพาไป ก็อาจหาไม่เจอเอาง่ายๆ ขนาดโทรถามทางกันแล้วยังหลงได้ จนไปไกลเกือบถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ยังมี ถ้าจะมา ขอให้เริ่มที่วัดสุทัศน์เทพวรารามเป็นจุดแรก ไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลของวันเสียก่อน แล้วออกมาถ่ายรูปเสาชิงช้าสักหน่อย จากนั้นข้ามถนนมาด้านถนนบำรุงเมือง เดินเลียบชิดถนนฝั่งซ้ายไปราว 70 เมตร (ระหว่างเดินระวังรถให้ดีเพราะบาทวิถีเล็ก) จะเจอตรอกแคบๆ ราวรถ 1 คันเข้าได้ มองทะลุเข้าไปในตรอก จะเห็นอาคารปูนแบบเก่าขึ้นป้ายหน้าตึกว่า “บำรุงชาติสาสนายาไทย” นั่นแหละคือ ร้านขายยาตำรับไทย “หมอหวาน” และพิพิธภัณฑ์บ้านหมอหวาน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยังมีชีวิต เนื่องจากยังทำหน้าที่เป็นร้านขายยาและที่ทำการของกิจการหมอหวาน ด้านหลังของอาคารก็เป็นเรือนพักอาศัยของทายาทของหมอหวานด้วย

เรื่องราวของหมอหวาน รอดม่วง (พ.ศ. 2413 - พ.ศ. 2478)

หมอหวานเป็นหมอราษฎร์ ให้การรักษาผู้เจ็บไข้ได้ป่วยแบบแพทย์แผนไทยและมีความรู้ทางแพทย์แผนตะวันตกด้วย จึงได้ใช้ความรู้สามารถทำยาไทยให้เป็นยาสำเร็จแบบฝรั่ง ไม่ต้องใช้การเจียดยาไปต้มกินแบบโบราณ ยาหมอหวานที่ถือเป็นซิกเนเจอร์เลยคือยาหอมสุรามฤทธิ์ปิดทองคำเปลว น้ำมันและขี้ผึ้งทาเส้น น้ำมันและขี้ผึ้งทาแก้พิศม์ และลูกอมชื่นจิตต์ ที่เด็ดจริงๆ เพราะอมคลายวิงเวียน คลายเมารถเมาเรือชะงัดนัก 

ภายในอาคารชั้นล่าง เป็นร้านขายยาไทยที่ยังคงรูปแบบและประโยชน์ใช้สอย เช่นเดียวกับเมื่อหมอหวานยังมีชีวิตอยู่ จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของหมอหวาน อาทิ อุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัช ทั้งแผนไทยและแผนตะวันตก  ถ้าอยากไปชมพิพิธภัณฑ์อย่างได้เรื่องราวรวมทั้งได้ชมการปิดทองยาหอม ควรติดต่อสอบถามและนัดเวลาเสียก่อนไป 
จากพิพิธภัณฑ์บ้านหมอหวาน เดินกลับมาทางวัดสุทัศน์อย่างเดิม ข้ามถนนบำรุงเมืองตรงไฟแดง (อย่าข้ามกลับไปด้านวัดสุทัศน์) เดินมาเรื่อยๆ จะเจอโบสถ์พราหมณ์ เข้าไปไหว้กันสักนิด  แล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ จนเจอถนนมหรรณพ ถ้าใครหิวน้ำจะเลี้ยวซ้ายก่อนตรงซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ เพื่อไปแวะนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ที่บ้านขนมปังขิง ก็ได้ แล้วค่อยกลับมาเดินบนถนนดินสอต่อ (จริงๆ จากบ้านขนมปังขิงมีซอยลัดสู่จุดหมายที่ 2 แต่ต้องเล่ายาว เดี๋ยวจะหลงเสียเปล่าๆ) 

ร้านหนังสือ World at The Corner ซึ่งเกิดจากความรักในการเดินทางและการอ่านของสองพี่น้อง “สิวิกาและณัฐ ประกอบสันติสุข”  ​​​​​​​

เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมหรรณพ คุณจะผ่านร้านข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ส้มตำ เย็นเตาโฟ เต้าหู้ทอด เผือกทอด กุ้ยช่าย ฯลฯ เรียงราย อย่าหวั่นไหวให้ฮึบไว้ จนถึงซอยมหรรณพ 1 จึงเลี้ยวซ้ายเข้าไปเพียง 10 เมตร ก็จะเจอรั้วไม้ระแนงสีขาวและบ้านไทยแบบสมัยปลายรัชกาลที่ 5 แต่ทาสีสดใส  ที่นี่คือร้านหนังสือ World at The Corner ซึ่งเกิดจากความรักในการเดินทางและการอ่านของสองพี่น้อง “สิวิกาและณัฐ ประกอบสันติสุข”  

​​​​​​​

ถ้าคุณเป็นคนชอบเที่ยว อยากเดินทางไปต่างประเทศด้วยความรู้ความเข้าใจในสถานที่นั้นๆ อย่างลึกซึ้งแล้วละก็ World at The Corner จะมีหนังสือดีๆ ให้คุณมาเลือกซื้อ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษซึ่งเจ้าของร้านคัดสรรมาแบบที่คุณจะหาไม่ได้ที่ร้านหนังสืออื่น   มีทั้งหนังสือนวนิยายอาหรับ แอฟริกา หนังสือทำมือจากอินเดีย หนังสือเด็ก หนังสืออาร์ต แฟชั่นและหนังสือถ่ายภาพ รวมทั้งหนังสือของหลุยส์ วิตตง ที่ในเมืองไทยจะหาได้เพียงที่ร้านนี้กับหลุยส์ วิตตงช้อป (บางสาขา) เท่านั้น 

นอกจากหนังสือ World at The Corner ยังมีของที่ระลึกซึ่งเจ้าของร้านได้มาจากการเดินทางไปที่ “ยากๆ” อย่างแอฟริกาและอเมริกาใต้ แล้วแบ่งปันมาจำหน่าย และถ้าใครต้องการที่จะรู้ว่าไปที่ยากๆ เหล่านั้นไปอย่างไร ไปที่ไหนบ้าง ที่ไหนดี เจ้าของร้านซึ่งอยู่ร้านเองทุกวีค ก็พร้อมจะคุยเรื่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน จนเพลินไปทั้งสองฝ่าย แบบแทบลืมหิวกันเลย

แต่ถ้าใครนึกหิวขึ้นมาได้ จะหาอะไรกินหลังออกจากร้านหนังสือ ก็ขอบอกว่าที่ให้เดินฮึบผ่านร้านอาหารทั้งหลายมาเพราะอยากให้ไปนั่งกินอาหารกลางวันแบบสบายๆ ที่ร้านบ้านลลิณ นั่นเอง 

จาก World at The Corner เดินข้ามถนนมหรรณพมาอีกฝั่ง ผ่าน 7-11 เลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ มุมตึกแถวนั้น เดินตรงเข้าไปเจอแยกเลี้ยวซ้าย เดินต่ออีกนิดเดียว เลี้ยวขวาแล้วเดินยาวผ่านบ้านผู้คนไปจนเห็นสะพานเล็กๆ ข้ามคลองหลอด อย่าข้ามสะพาน! ให้เลี้ยวขวาเข้าทางเดินเลียบคลอง แล้วจะเจอประตูทางเข้าบ้านลลิณ 

บ้านลลิณ ร้านอาหารในบ้านเก่าโดย 2 เชฟสาวจากรายการมาสเตอร์เชฟ เป็นอาหารแบบจานเดียวง่ายๆ แต่รสชาติเฉียบ ครบเครื่อง ในตัวบ้านไม่มีแอร์ทว่าร่มรื่น นั่งกินอาหารกันได้ไม่ร้อนเลย  
​​​​​​​
เมื่อจบจาก 3 ซีเครตแอดเดรสนี้แล้ว ถ้าใครอยากไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ ไปร้านมนต์ นมสด ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฯลฯ สามารถไปต่อได้ง่ายๆ ไม่น่าจะหลงแล้วทีนี้ !!?!!  

หากอยากสั่งอาหารบ้านลลิณ คาเฟ่มากินที่บ้าน ก็สั่งได้เลยในแอปฯโรบินฮู้ด >>  https://bit.ly/3IgezbX
Travel Tips

- พิพิธภัณฑ์บ้านหมอหวาน เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mowaan.com
- World at The Corner เปิด ศุกร์ - อาทิตย์ 10.00 – 19.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ facebook: World-at-the-Corner
​​​​​​​- ดูแผนที่ เวลาเปิด-ปิด และรายการอาหารของบ้านลลิณได้ที่ facebook: BaanLalinThaiCafe

Writer

นิศารัตน์ สีตะสุวรรณ

อดีตบรรณาธิการนิตยสารเที่ยวรอบโลก เดินทางเก็บแต้มมากว่า 70 ประเทศ แต่ตอนนี้หันมาท่องเที่ยวเมืองไทยแบบชิลๆ ช้าๆ และแวะหาของกินอร่อยๆ ไปเรื่อยๆ ตามสภาวะเหตุการณ์ของโลกในปัจจุบัน

Comments

ความคิดเห็นจากผู้อ่าน
({{comment_all}} ความคิดเห็น)